พนักงานเงินเดือนเลือกเช่าหรือซื้อคอนโดดี?

ประโยคคำถามยอดฮิตของคนที่อยากครอบครองคอนโดสักห้อง
โดยเฉพาะหนุ่มสาวออฟฟิศ พนักงานเงินเดือนเลือกเช่าหรือซื้อคอนโดดี ? แบบไหนคุ้มกว่ากัน”

คนส่วนใหญ่คงรู้สึกเสียดายนิด ๆ กับจำนวนเงินที่ต้องสูญเสียไปในแต่ละเดือนกับการเช่าคอนโด
ซึ่งก็เหมือนเป็นการเอาเงินไปให้ หรือผ่อนคอนโดให้กับคนอื่น แต่เรากลับไม่ได้อะไรเลยทุก ๆ เดือน
นั่นก็ถือว่าเป็นความคิดที่ถูก แต่ถ้าหากมองในมุมกลับว่าเรามีความพร้อมที่จะผ่อนคอนโดจริง ๆ หรือเปล่า
เพราะเรื่องที่อยู่อาศัยก็ถือเป็นเรื่องใหญ่ คุณต้องเป็นหนี้ก้อนใหญ่และต้องผ่อนถึง 30 ปี
วันนี้เราจะพาทุกคนมาสำรวจตัวเองกันค่ะ เพื่อให้ทุกคนได้เห็นกันว่าระหว่าง เช่าและซื้อ
แบบไหนที่เหมาะกับตัวคุณมากกว่ากัน ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยค่ะ

1. วางแผนเรื่องการทำงานเป็นอย่างไร
   สำหรับผู้ที่วางแผนว่ามีโอกาสที่จะทำงานที่นี่ไปตลอด ไม่เปลี่ยนงานแล้ว
   หรือถ้ามีการโยกย้ายที่ทำงาน ก็จะเลือกสถานที่ทำงานที่อยู่ใกล้เส้นรถไฟฟ้าหรือรถใต้ดิน
   ก็สามารถตัดสินใจซื้อคอนโด ได้ค่ะ เพราะมีโอกาสที่จะได้อยู่คอนโดนี้หลายปี
   และการซื้อคอนโด มีข้อดีที่สำคัญคือ ทำให้มีสินทรัพย์เป็นของเราเอง
   ในอนาคตถ้าไม่ได้อยู่คอนโด ที่ซื้อนี้แล้ว ก็มีโอกาสสร้างรายได้ด้วยการปล่อยเช่า
   หรือขายทำกำไรจากการปรับขึ้นของมูลค่าคอนโด
   แต่หากผู้ที่ไม่มั่นใจว่าจะทำงานที่นี่ยาวนานเพียงใดหรือถ้ามีการโยกย้ายงาน
   ที่ทำงานใหม่อาจไม่ได้อยู่ใกล้รถไฟฟ้า หรือรถใต้ดินก็ได้
   แบบนี้การเช่าคอนโดอาจจะเหมาะกว่า เพราะเมื่อต้องการย้ายที่ทำงาน
   ก็เพียงแค่มองหาคอนโด ให้เช่าแห่งใหม่ที่ใกล้ที่ทำงาน แต่ถ้าตัดสินใจซื้อคอนโดไปแล้ว
   เกิดต้องการขายหรือหาผู้มาเช่าต่อ เพื่อนำเงินซื้อหรือเช่าคอนโดแห่งใหม่ทำได้ยากมากขึ้น
   เพราะอาจเจอกับปัญหาขายคอนโดเดิมไม่ได้ในทันทีหรือไม่มีผู้เช่าก็ได้
2. มีเงินเก็บเพียงพอหรือไม่
   ส่วนใหญ่การซื้อคอนโดสักห้องหนึ่ง มักซื้อด้วยการขอสินเชื่อ
   โดยทั่วไปธนาคารจะให้วงเงินกู้ประมาณ 80-90% ของราคาคอนโด
   เท่ากับว่าผู้กู้ควรมีเงินดาวน์อย่างน้อย 10-20% ของราคาคอนโด
   เช่น คอนโดราคา 2 ล้านบาท ควรมีเงินดาวน์อย่างน้อย 2-4 แสนบาท
   ถ้ามีเงินก้อนสำหรับเป็นเงินดาวน์เพียงพอแล้ว ก็สามารถตัดสินใจกู้ซื้อคอนโดได้
   แต่ถ้าเงินดาวน์ยังมีไม่เพียงพอ อาจเช่าคอนโดและระหว่างนี้เก็บออมเงินดาวน์ไปก่อน
   หรืออีกทางเลือกหนึ่ง คือ การผ่อนดาวน์คอนโด ซึ่งจะเป็นคอนโดที่กำลังก่อสร้างอยู่
   สำหรับผู้ที่วางแผนว่าจะเก็บเงินเพื่อดาวน์คอนโดก่อนนั้น แนะนำว่าออมเงินในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ
   อย่างเงินฝาก กองทุนตลาดเงิน หรือกองทุนตราสารหนี้ เพื่อเน้นรักษามูลค่าเงินลงทุนของเราเอาไว้
3. ภาระหนี้ปัจจุบันมีมากน้อยเพียงใด
   ถ้าวางแผนซื้อคอนโด ด้วยการขอสินเชื่อ ธนาคารจะพิจารณาว่าเรามีความสามารถ
   ในการผ่อนชำระหนี้มากน้อยเพียงใด หลายๆ ธนาคารจะให้เรามีภาระผ่อนหนี้ทั้งหมดต่อเดือน
   ไม่ว่าจะเป็น ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ หรือสินเชื่อส่วนบุคคล ได้ถึง 40-60% ของรายได้ต่อเดือน
   ยิ่งรายได้สูง ก็ยิ่งมีภาระผ่อนต่อเดือนในสัดส่วนที่สูงได้
   ทั้งนี้แนะนำว่า ภาระผ่อนต่อเดือนไม่ควรเกิน 30% ของรายได้ต่อเดือน
   สมมติเงินเดือน 50,000 บาท สามารถผ่อนชำระหนี้ได้ประมาณ 15,000 บาทต่อเดือน
   เพื่อจะได้ไม่เป็นภาระที่หนักเกินไป

ดังนั้น ก่อนยื่นกู้ซื้อคอนโด ควรสำรวจหนี้สินที่เรามีเสียก่อน ถ้าไม่มีภาระหนี้สินใด
โอกาสขอสินเชื่อบ้านผ่านก็มีสูง แต่ถ้ามีภาระผ่อนหนี้อื่นอยู่โอกาสขอสินเชื่อบ้านผ่านก็อาจเป็นไปได้ยาก
หรือได้วงเงินกู้ที่ไม่สูงมากนัก ซึ่งการเช่าคอนโดอยู่จะเหมาะกว่า

อย่างไรก็ตามถ้ามีภาระหนี้สินอยู่เยอะแล้ว จะต้องระวังเรื่องค่าใช้จ่ายในส่วนค่าเช่าที่เพิ่มเข้ามา
ด้วยการปรับลดค่าใช้จ่ายส่วนอื่นลง เพื่อให้รายได้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายค่ะ

สำหรับมือใหม่ที่อยากรู้วิธีคำนวณวงเงินกู้ สามารถอ่านได้ที่
>>https://shinyurealestate.com/articles/loan-calculator <<

สุดท้ายไม่ว่า พนักงานเงินเดือนเลือกเช่าหรือซื้อคอนโดดี สิ่งสำคัญอยู่ที่ความพร้อมทางการเงิน
เพราะมีค่าผ่อนหรือค่าเช่าที่ต้องจ่ายทุกเดือน ดังนั้นจำเป็นต้องวางแผนรายได้และค่าใช้จ่ายให้ดี
จะได้ไม่เกิดปัญหาการเงินตามมาในอนาคตนะคะ