Risland กลุ่มทุนฮ่องกง ก้าวสู่แบรนด์อสังหาระดับโลก ในเวลาเพียง 2 ปี!!

Risland Thailand (ไรส์แลนด์ ประเทศไทย) ดีเวลลอปเปอร์น้องใหม่จากฮ่องกง ที่กำลังมาแรงในขณะนี้
ด้วยอายุเพียง 2 ปี แต่กลับเขย่าวงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งในไทยและทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง
โดยมีโครงการอสังหาริมทรัพย์รวม 5 ประเทศ ทั้งสหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ อินเดีย อินโดนีเซีย และไทย
โดยที่ผ่านมาบริษัทฯ จะลงทุนในแต่ละประเทศปีละไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท
ถือเป็นน้องใหม่ที่น่าสนใจเลยใช่ไหมละคะ วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จัก Risland กันให้มากขึ้นกันค่ะ

1. Risland (ไรส์แลนด์) มาจากคำว่า Rising ก่อตั้งเมื่อปี 2560 โดยกลุ่มนักลงทุนชาวฮ่องกง
   ผู้มีประสบการณ์ในวงการอสังหาฯ มาก่อน
   ในช่วงเวลาเพียง 2 ปีนี้Risland เปิดโครงการมาแล้วถึง 9 โครงการ ใน 5 ประเทศ ประกอบด้วย
   – โครงการ Skyline Tower คอนโดระดับเวิลด์คลาส 67 ชั้นในมหานครนิวยอร์ก
   – Legacy Gardens โครงการบ้านเดี่ยวสุดหรู ในรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา
   – โครงการ NEO อพาร์ทเมนต์หรูกลางเมืองโอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์
   – โครงการ Sky Mansion คอนโดและเพนท์เฮาส์สุดหรูในเมืองเดลี
   – The ICON โครงการคอนโดพรีเมี่ยมในเมืองเธน (Thane) ประเทศอินเดีย
   – โครงการ Sky House BSD
   – Sky House Alam Suteraโครงการอพารทเมนต์หรูใกล้เมืองจาร์กาต้า ประเทศอินโดนีเซีย
   สำหรับ 3 โครงการในประเทศไทย ได้แก่
   – Artisan Ratchada โครงการคอนโดแบบ Mix-Used
   – Lake Serene โครงการบ้านเดี่ยวระดับพรีเมี่ยม
   – CLOUD Thonglor-Phetchaburi คอนโดระดับ Attainable Luxury
   นอกจากนี้ ยังมีโครงการใหม่ที่เตรียมเปิดตัวเร็ว ๆ นี้ทั้งในประเทศไทย และประเทศอื่น ๆ
2. ปัจจัยที่ทำให้ชื่อเสียงของ Risland เป็นที่รู้จักและได้รับความสนใจอย่างมาก ได้แก่ รางวัลที่สะท้อนถึงคุณภาพงาน
   ดีไซน์และมาตรฐานการพัฒนาโครงการของบริษัท รวมถึงปรัชญาและวิสัยทัศน์ของบริษัทที่มุ่งสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ
   เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงและสร้างอนาคต โดย 3 รางวัลที่บริษัทได้รับมา ประกอบด้วย
   – Building of the Year 2018 สำหรับโครงการ Skyline Tower ในอเมริกา
   – Iconic International Project in Mumbai Award by Chief Minister of Maharashtra
   สำหรับโครงการ The Icon ในอินเดีย
   – The Best Apartment in South Tangerang Award from Indonesia Website
   สำหรับโครงการ Sky House BSD+ ประเทศอินโดนีเซีย
3. จุดเด่นของRisland คือ องค์ความรู้ในเรื่อง Operation และความเป็น Global Company
   ที่มีสไตล์การทำงานผสมผสานแบบ Think Global, Act Local
   ทำให้Risland มีมุมมองทางธุรกิจและการตลาดที่หลากหลาย มาผสมผสาน พัฒนา และปรับปรุง
   เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดในแต่ละประเทศ
4. จุดแข็งของบริษัทคือ DNA ในเรื่องของ Speed หัวใจสำคัญของความเร็วที่เป็นสไตล์การทำงานของRisland
   คือการเริ่มต้นเร็ว (Move Fast) และต้องกล้าที่จะล้ม แต่ถ้าล้มแล้วต้องลุกให้ไวและเรียนรู้ให้เร็ว
5. Risland มีความเชี่ยวชาญและชื่นชอบในการสร้างโครงการแบบ Mix-Used ขนาดใหญ่
   เนื่องจากปรัชญาของบริษัท ไม่ใช่แค่การสร้างที่อยู่อาศัย แต่เป็นความปรารถนาที่จะสร้างคุณภาพชีวิต
   และสร้างชีวิตที่สมบูรณ์แบบเหนือระดับให้กับลูกค้าทุกกลุ่ม ดังนั้นบริษัทจึงมองว่า โครงการที่อยู่อาศัยที่เป็นโมเดล
   แบบ Mix-Used ที่มีทั้ง Residential และ Commercial รวมถึง Lifestyle Center และ Business Centers
   ไปพร้อมกัน น่าจะตอบโจทย์ของบริษัท และเติมเต็มชีวิตของผู้อยู่อาศัย ให้ใช้ชีวิตได้อย่างครบสมบูรณ์ภายในที่เดียว
6. ประเทศไทยถือเป็น Strategic Market ของRisland โดยเพียงปีแรก บริษัทได้เปิดโครงการในไทย 2 โครงการ
   โดยมีมูลค่าโครงการรวมทั้งหมดกว่า 11,000 ล้านบาท ขณะที่ในปีนี้ บริษัทมีแผนจะเปิดโครงการใหม่ ๆ
   อีก 2-3 โครงการ ซึ่งมีมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท
   โดยนอกจากพื้นที่ภายในกรุงเทพฯ (CBD และ New CBD) แล้ว Risland ยังมีแผนจะขยายการลงทุนไปยังจังหวัดต่างๆ
   ที่เป็นหัวเมืองท่องเที่ยวหลัก (Resort Destination) อีกด้วย

อย่างไรก็ตามเป้าหมายใหญ่ของRisland ก็คือการติด TOP 3 ภายในระยะเวลา 5 ปี ซึ่งต้องบอกเลยว่า
ถือเป็นเป้าที่ใหญ่และท้าทายมาก สำหรับน้องใหม่ในตลาดอสังหาฯ ไทย
เป้าหมายของRisland จะเป็นจริงหรือไม่ คงต้องรอดูกันต่อไปว่าบริษัทจะสามารถรักษาคุณภาพและ
มาตรฐานการพัฒนาโครงการให้เป็นไปตามปรัชญาที่บริษัทตั้งไว้ ได้อย่างสม่ำเสมอเพียงใด
หากรักษาไว้ได้ เป้าหมายที่ตั้งไว้และมีนายหน้าอสังหาฯ ดีๆ เป็นพาร์ทเนอร์ ก็คงไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอนค่ะ

หากใครอ่านมาถึงตรงนี้และอยากจับจอง เป็นเจ้าของโครงการในเครือของ Risland สามารถติดต่อ #ทีมชินยู
ได้เลยนะคะ เพราะเราได้ร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัทRisland รับรองว่ามีดีลเด็ดๆ โปรโมชั่นดีๆ ไว้รอทุกคนแน่นอนค่ะ