เรียกได้ว่ามาแรงสวนกระแสเงินบาทที่แข็งค่ากันเลยทีเดียว เพราะนักทุนชาวจีนยังคงเดินหน้าซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยอย่างต่อเนื่อง แม้จะกำลังเผชิญกับพิษเงินหยวนอ่อนซึ่งเป็นผลมาจากสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ
.
แคร์รี่ ลอว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้อำนวยการจูเหว่ย ดอทคอม เว็บไซต์ค้นหาอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศสำหรับชาวจีนเผยว่า อัตราการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยของชาวจีนแผ่นดินใหญ่ยังคงเติบโตต่อเนื่องในปีนี้ จึงเป็นโอกาสดีที่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะขายสินทรัพย์ ให้กับชาวจีนแทนการชะลอตัวในการซื้อของคนไทย
.
ชาวจีนเริ่มวางแผนเข้าซื้อสินทรัพย์ในไทยตั้งแต่หลายปีก่อน ซึ่งบางโครงการก็จะแล้วเสร็จในปีนี้หรือปีหน้า สิ่งที่ดึงดูดผู้ซื้อชาวจีนให้มาลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในไทยนั่นก็คือคุณภาพของสินทรัพย์ในราคาที่สมเหตุสมผล นอกจากนี้ ผู้ซื้อชาวจีนยังชอบแนวคิดของการการันตีค่าเช่า โดยส่วนใหญ่คาดหวังที่จะได้การันตีค่าเช่า 5-7% (ขึ้นอยู่กับโครงการและช่วงราคา)
.
ตามข้อมูลจากเว็บไซต์จูเหว่ย ดอทคอม ประเทศไทยได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งของประเทศที่ชาวจีนต้องการเข้ามาซื้อสินทรัพย์ ตามด้วยประเทศญี่ปุ่น โดยในไตรมาสแรกของปีนี้ ผู้ซื้อชาวจีนมีความต้องการซื้อสินทรัพย์ในไทยมากกว่า 4 เท่า เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
.
แคร์รี่ ลอว์ ให้ข้อมูลว่า 85% ของผู้ซื้อชาวจีนต้องการซื้อสินทรัพย์ที่อยู่ในระดับราคา 8 ล้านบาทหรือต่ำกว่า โดยส่วนใหญ่ของผู้ซื้อเหล่านี้มักต้องการคอนโดฯ ขนาด 1 ห้องนอนในกรุงเทพฯ มากที่สุด ส่วนอีก 40% ต้องการอพาร์ตเมนต์ 1 ห้องนอน ตามด้วย 24% ต้องการอพาร์ตเมนต์ 3 ห้องนอน และอีก 14% ต้องการอพาร์ตเมนต์ขนาด 2 ห้องนอน
.
เพราะเหตุใดประเทศไทยจึงตอบโจทย์
จุดเด่นของเมืองไทยก็คือการท่องเที่ยวและผู้คนเป็นมิตร แม้จุดปลายทางหลักอย่างกรุงเทพฯ พัทยา เชียงใหม่ ยังคงครองความเป็นที่นิยมอยู่ แต่ชาวจีนก็เริ่มให้ไปให้ความสนใจกับเขตพื้นที่ที่ติดทะเล อย่างเช่น เกาะสมุยและกระบี่
.
ชาวจีนชื่นชอบจังหวัดกระบี่ เพราะได้ใช้ชีวิตบนหรูหราในราคาที่เอื้อมถึง รายล้อมด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ และชายหาดอันงดงาม มากไปกว่ายังมีเที่ยวบินตรงจากจีนอีกด้วย ถ้าหากคุณเป็นผู้พัฒนาอสังหาฯ แล้วมีคอนโดฯ ทำเลดีๆ อยู่ในครอบครองแล้วล่ะก็ คุณสามารถดึงดูดชาวจีนให้มาซื้อได้ไม่ยากเลย เพราะพวกเขารู้สึกว่าที่นี่คุ้มค่าต่อการลงทุน
.
ทั้งนี้ ปัจจัยหลักที่ทำให้ชาวจีนสนใจสินทรัพย์ของไทย นอกจากตัวสินทรัพย์ที่มีราคาสมเหตุสมผล สวยงาม และได้ผลตอบแทนดีแล้ว ประเทศไทยยังมีความพิเศษในแบบที่ที่อื่นไม่มี เช่น ประเทศเราใกล้กับจีน วัฒนธรรมไม่แตกต่างกันมาก อาหารอุดมสมบูรณ์ อีกทั้ง การแพทย์ก็มีคุณภาพสูงและราคาไม่แพง รวมถึง วัยรุ่นชาวจีนสามารถศึกษาในมหาวิทยาลัยในไทยในราคาถูก และเศรษฐกิจโดยภาพรวมมีโอกาสเติบโตในอนาคต
.
ประเทศไทย…จุดหมายปลายทางของชาวจีนวัยเกษียณ
จำนวนตัวเลขของชาวจีนที่เข้ามาพำนักอยู่ในประเทศไทยหลังเกษียณ มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ และภายในปี 2030 จีนจะมีประชากรกลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปมากกว่า 340 ล้านคน เป็นจำนวน 5 เท่าของประชากรไทย
.
สาเหตุที่ผู้สูงอายุชาวจีนตัดสินใจเลือกที่จะมาใช้ชีวิตบั้นปลายในต่างถิ่นที่นี่ก็เป็นเพราะเรามีวีซ่าสำหรับชาวต่างชาติที่อายุ 50 ปีขึ้นไป ให้เข้ามาพำนัก พักผ่อนได้ 1 ปีเต็ม นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยที่สำคัญอื่นๆ อีก เช่น สินทรัพย์และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันอยู่ในราคาที่เอื้อมถึง สามารถเข้าถึงสาธารณสุขที่ดีกว่า ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อีกทั้งอากาศก็ดี แถมยังได้ใกล้ชิดกับลูกหลานที่เข้ามาเรียนหรือทำงานในไทย โดยเมืองปลายทางที่ชาวจีนวัยเกษียณนิยมมาอยู่อาศัย ได้แก่ กรุงเทพฯ และเชียงใหม่
.
โอกาสดีของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์
จอร์จ ชมิเอล ประธานกรรมการบริหารจูเหว่ย ดอทคอม แนะนำว่าผู้พัฒนาอสังหาฯ ในไทยควร เอื้อเฟื้อบริการต่าง ๆ ให้กับผู้ซื้อชาวต่างชาติมากขึ้น ทั้งในเรื่องของการจัดการอสังหาฯ อย่าง การเช่าห้อง จ่ายภาษี ตลอดจนบริการหลังการขาย ฯลฯ ทั้งนี้ เพราะผู้ซื้อชาวต่างชาติมีแนวโน้มที่จะลงทุนกับสินทรัพย์มากกว่า ถ้าพวกเขาสามารถจัดการการซื้อหรือเช่าได้อย่างสะดวก ยิ่งไปกว่านั้นผู้ซื้อเหล่านี้ ยังมีแนวโน้มที่จะกลับมาซื้อสินทรัพย์อื่น ๆ จากผู้พัฒนาอสังหาฯ เจ้าเดิมเพิ่ม
.
นอกจากนี้ ผู้ซื้อชาวจีนยังชอบดีไซน์และสิ่งอำนวยความสะดวกที่หรูหราเป็นพิเศษ แม้ว่าบางทีพวกเขาอาจซื้อเพื่อปล่อยเช่า ไม่ได้มีความประสงค์ที่อยู่เองก็ตาม และสิ่งที่ทำให้ผู้ซื้อมั่นใจว่าสินทรัพย์นั้น ๆ คุ้มค่าที่จะลงทุน ก็คือโครงการต้องมีขนส่งสาธารณะตัดผ่าน ใกล้กับห้างสรรพสินค้า สำนักงาน โรงเรียน สวนสาธารณะ และพื้นที่สันทนาการอื่น ๆ นั่นเองค่ะ
.
ที่มา : https://www.bangkokpost.com/business/1720627/chinese-still-keen-on-thailand