ในช่วงที่เศรษฐกิจยังชะลอตัวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปลายปี 2563 จนถึงปัจจุบันทำให้หลายๆ คนมีกำลังซื้อลดน้อยลงและอยากเก็บเงินสดไว้กับตัวมากกว่า หลายคนเลือกที่จะตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายเรื่องของกิน ของใช้ หรือแม้กระทั่งเรื่องที่อยู่อาศัย อย่างการ #ผ่อนคอนโด ที่ยอดชำระแต่ละเดือนค่อนข้างสูง ดังนั้นในวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับวิธี ขายคอนโดยังผ่อนไม่หมด ที่ยังผ่อนกับธนาคารอยู่ ว่าจะสามารถทำได้หรือไม่ และจะมีขั้นตอนอย่างไร เผื่อเป็นคำแนะนำให้กับคนที่กำลังอยากจะตัดรายจ่ายในส่วนนี้ไปเพื่อให้เงินในกระเป๋ามีสภาพคล่องที่ดีขึ้น
#ติดต่อธนาคารที่ปล่อยกู้ให้คุณ
สิ่งแรกที่ควรทำก็คือเดินเข้าไปคุยกับธนาคารที่ปล่อยเงินกู้ให้กับคุณ เพื่อทำการปรับโครงสร้างหนี้หรือปรับลดระดับจำนวนเงินที่ต้องผ่อนต่อเดือนลง หรือสรุปสุดท้ายแล้วเมื่อต้องการขายคอนโดออกสู่ตลาดคุณก็ต้องแจ้งกับธนาคาร เพราะจะมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการขายอีกหลายรายการ ซึ่งทางธนาคารที่รับจำนองจะแจกแจงค่าใช้ต่าง ๆ ให้กับคุณได้ทราบขั้นตอนเบื้องต้นในการ ขายคอนโดผ่อนไม่หมด
#หาลูกค้า
การหาลูกค้าไม่ว่าจะเป็นการประกาศหาลูกค้าทางช่องทางต่างๆ เองหรือจะให้นายหน้าอสังหาช่วยหาลูกค้าเพื่อเป็นการประหยัดเวลาก็สามารถทำได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งวิธีในการหาลูกค้าแบบง่ายๆ นั่นก็คือการติดต่อกับทางธนาคารที่กำลังผ่อนชำระคอนโด ว่าต้องการขายคอนโดที่ยังผ่อนไม่หมด ซึ่งทางธนาคารก็จะแจกแจงรายละเอียดและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้ผู้ที่ต้องการขายคอนโดได้ทราบ รวมไปถึงอาจจะยังช่วยหาลูกค้าที่ต้องการซื้อคอนโดต่อให้อีกด้วย
#ทำสัญญาจะซื้อจะขายและให้ลูกค้าวางเงินมัดจำ
เมื่อได้ลูกค้าหรือผู้ที่ต้องการจะซื้อคอนโดต่อจากเราแล้ว ก็ควรที่จะเริ่มทำสัญญาจะซื้อจะขายกับลูกค้าในทันที เพื่อเป็นการยืนยันว่าบุคคลทั้งสองฝ่ายได้มีการตกลงที่จะซื้อจะขายคอนโดแห่งนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และวางเงินมัดจำเพื่อเป็นหลักประกันว่าต้องการที่จะซื้อคอนโดแห่งนี้จริงๆ ซึ่งผู้ขายเองก็จะได้นำเงินในส่วนนี้เป็นใช้ในการสำรองจ่ายค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ต่อไป
#แจ้งไถ่ – ถอนจำนองกับธนาคาร
เมื่อทำสัญญากับทางฝั่งผู้ซื้อเรียบร้อยแล้ว ผู้ขายมีหน้าที่ต้องติดต่อธนาคารที่ให้กู้เพื่อทำเรื่องปิดหนี้กับทางธนาคาร โดยสามารถนัดวันโอนกรรมสิทธิ์กับทางเจ้าหน้าที่ได้เลย ทางธนาคารจะทำการแจ้งยอดคงค้างที่ต้องชำระ โดยจะคิดดอกเบี้ยถึงวันที่มีการโอนกรรมสิทธิ์โดยในขั้นตอนนี้ควรแจ้งทางธนาคารล่วงหน้า 14 – 30 วันทำการ
#แจกแจงการแบ่งชำระเงิน
ผู้ขายมีหน้าที่ต้องแจกแจงผู้ซื้อหรือธนาคารฝ่ายผู้ซื้อว่าจะต้องแบ่งเช็คสั่งจ่ายธนาคารฝ่ายผู้ขาย เพื่อทำเรื่องปลอดจำนองกี่บาท หากราคาขายสูงกว่ายอดหนี้คงเหลือ ต้องนำเงินส่วนที่เหลือสั่งจ่ายผู้ขายอีกกี่บาท แต่ถ้ายอดหนี้เกินกว่าราคาขาย ผู้ขายต้องเตรียมเงินมาจ่ายเพิ่มเพื่อปลอดจำนองด้วย
#นัดกับลูกค้าไปจดทะเบียนนิติกรรมที่กรมที่ดิน
หลังจากเก็บเงินมัดจำแล้วก็จะเข้าสู่ขั้นตอนของการจดทะเบียนต่างๆ ให้เรียบร้อย ในการจดทะเบียนนิติกรรมนี้ผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องนัดเจ้าหน้าที่ธนาคารที่เป็นผู้ให้กู้มาให้พร้อมกัน เพราะในวันนั้นจะมีขั้นตอนดังนี้
– ธนาคารฝั่งผู้ขายตรวจสอบเช็คสั่งจ่ายอย่างถูกต้องแล้ว ธนาคารฝ่ายผู้ขายจะทำเรื่อง #ปลอดจำนอง
– จดทะเบียนไถ่ถอนจำนองห้องชุด การจดทะเบียนนี้เพื่อให้ธนาคารที่เป็นผู้รับจำนองคอนโด ไถ่ถอนห้องชุดนั้นๆ ให้กับผู้ขาย โดยค่าธรรมเนียมกับกรมที่ดินอยู่ที่ 5 บาท
– จดทะเบียนขายห้องชุด การจดทะเบียนนี้เป็นการจดทะเบียนระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ว่าผู้ขายได้ขายห้องชุดให้กับผู้ซื้อ ซึ่งค่าธรรมเนียมในการขายห้องชุดนั้นจะอยู่ที่ร้อยละ 2 จากราคาประเมินทุนทรัพย์ของห้องชุด แต่ในกรณีที่ผู้ขายซื้อคอนโดมาไม่ถึง 5 ปี หรือมีชื่อในทะเบียนบ้านไม่ถึง 1 ปี จะเสียภาษีธุรกิจเฉพาะอีกร้อยละ 3.3 จากราคาประเมิน ถ้าเสียภาษีนี้แล้วไม่ต้องเสียค่าอากร 0.5%
– ธนาคารฝ่ายผู้ซื้อก็จะทำเรื่องจดจำนองต่อ จึงสิ้นสุดกระบวนการขายบ้านติดธนาคารส่วนเอกสารต่างๆ ที่ต้องเตรียมไปก็จะมีดังนี้
– บัตรประชานชนทั้งแบบสำเนาและตัวจริง
– ทะเบียนบ้านทั้งแบบสำเนาและตัวจริง
– โฉนดห้องชุดตัวจริง
– ใบปลอดหนี้
จะเห็นได้ว่าวิธี ขายคอนโดยังผ่อนไม่หมด ไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยากเลย เพียงแต่มีขั้นต้องที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพียงเท่านี้เราก็จะสามารถตัดรายจ่ายในส่วนที่ไม่จำเป็นและเก็บเงินสำรองไว้ในยามฉุกเฉิน หรือไปหาซื้อคอนโดแห่งใหม่ที่ตอบรับกับไลฟ์สไตล์ได้มากขึ้นแล้ว
______________________________________________________________________
อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ : https://shinyurealestate.com/article/category/knowledge
หรือ https://www.facebook.com/Shinyu-Real-Estate-Official-100529669046345