ดอกเบี้ยธนาคาร คงที่ Vs ลอยตัว แบบไหนคุ้มที่สุด

– อัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบคงที่ (Fixed Rate)

คือ อัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินกำหนดไว้ตายตัวในช่วงสัญญาที่กำหนดไว้ อัตราดอกเบี้ยนี้จะไม่ขึ้นหรือลงตามต้นทุนของธนาคารหรือสถาบันการเงิน แต่จะคงที่ตลอดอายุสัญญาเงินกู้

– อัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบลอยตัว (Floating Rate)

คือ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ไม่ได้กำหนดไว้เฉพาะเจาะจง ซึ่งเป็นดอกเบี้ยที่จะเปลี่ยนแปลงขึ้นหรือลงไปตามต้นทุนหรือภาวะของเศรษกิจของธนาคารหรือสถาบันการเงิน

และเราควรเลือกแบบไหนดีล่ะ? นี่คงเป็นคำถามสำหรับหลายๆ คนสำหรับปัจจัยหลักที่เรานำมาใช้ในการเลือกว่าจะใช้อัตราดอกเบี้ยแบบไหนดีก็คือ “สภาวะเศรษกิจ” ส่วนมีวิธีการคิดและเลือกอย่างไร มาดูกันเลยค่ะ

.

หากเป็นช่วงที่เศรษฐกิจขาขึ้น หรือ ในช่วงที่เศรษฐกิจมีแนวโน้มดีขึ้นอัตราดอกเบี้ยบ้านก็จะปรับสูงขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่คล่องตัว จึงควรเลือกเป็น “อัตราดอกเบี้ยคงที่” เพื่อป้องกันไม่ให้ดอกเบี้ยในสินเชื่อปรับขึ้นตามไปด้วย ทำให้เราและต้องจ่ายดอกเบี้ยแพงขึ้นค่ะ

หากเป็นช่วงที่เศรษฐกิจขาลงและมีแนวโน้มที่จะซบเซานาน จะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยบ้านลดลงจากภาวะเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง จึงควรเลือกเป็น “อัตราดอกเบี้ยลอยตัว” เพื่อที่เราจะได้จ่ายดอกเบี้ยถูกลงนั่นเอง

.

โดยดอกเบี้ยแบบลอยตัวจะมีการคิดดอกเบี้ยตามอัตราอ้างอิงจากธนาคารแห่งประเทศไทยโดยส่วนใหญ่จะมีอัตราดอกเบี้ยที่ค่อนข้างสูงประมาณ 5% – 7% ต่อปี ขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคารเลยค่ะ เห็นมั้ยคะว่าไม่ได้ยุ่งยากและซับซ้อนอย่างที่คิด แต่ไม่ใช่แค่เลือกรูปแบบอัตราดอกเบี้ยนะคะ ต้องเลือกธนาคารหรือสถาบันการเงินที่สามารถ ให้ผลคุ้มค่าและข้อเสนอที่เป็นประโยชน์กับเรามากที่สุดด้วยนะคะ แนะนำว่าก่อนจะกู้ ต้องทำเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขต่างๆ อย่างน้อย 3 ธนาคารนะคะ เพื่อความคุ้มค่าอย่างไรก็ตามเรื่องการยื่นกู้สามารถปรึกษากับนายหน้าอสังหาได้นะคะเพราะจากประสบการณ์ของนายหน้าอสังหาสามารถให้ข้อมูลและแนะนำเจ้าหน้าที่สินเชื่อที่เก่งๆให้ได้เลย

______________________________________________________________________