สถานการณ์อสังหาริมทรัพย์อย่างที่ทราบกันดีว่าในปีนี้ยังอยู่ในภาวะชะลอตัว อันเนื่องมาจากปัจจัยต่างๆไม่ว่าจะเป็น สงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ สงครามการค้าอิหร่าน-สหรัฐฯ เงินบาทแข็งค่า มาตรการ LTV ปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองภายใน ฯลฯ สิ่งต่างๆเหล่านี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความเชื่อมั่นและอัตราการซื้อการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักลงทุนและผู้ซื้อต่างชาติ
.
สำหรับตลาดที่เราจะโฟกัสในวันนี้คือตลาดผู้ซื้อและนักลงทุนชาวจีนที่เรียกได้ว่าเป็นกำลังซื้อสำคัญของตลาดอสังหาฯในช่วงปีที่ผ่านมา แต่ก็มีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลกระทบ ทั้งเรื่องข้อจำกัดในการนำเงินออกนอกประเทศ เงินบาทที่แข็งค่า และในวันนี้ปัจจัยสำคัญที่เราต้องเผชิญและเรียกได้ว่าส่งผลกระทบต่อวงการอสังหาฯมากพอสมควรคือ “ไวรัสโคโรนา”
.
ผู้ซื้อและนักลงทุนชาวจีนหายไปจากตลาดอสังหาฯ ลากยาวมาตั้งแต่ช่วงตรุษจีนที่เป็นวันหยุดยาว ทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนหายไปจากตลาดเกือบหมดกระทบต่อตลาดอสังหาฯประเภทปล่อยเช่า ทั้งเซอวิสอพาร์ทเม้น โรงแรม ฯลฯ ส่วนตลาดคอนโดมิเนียมคาดว่าจะได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อยเนื่องจากในช่วงหยุดยาวชาวจีนใช้เงินในการจับจ่ายใช้สอยมากที่สุด
.
สำหรับผลกระทบของไวรัสโคโรนาที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้กระทบโดยตรงต่อจำนวนผู้ซื้อชาวจีน แต่หากมองกลับกันกลับพบว่า จากที่ประเทศจีนมักเกิดปัญหาโรคระบาดร้ายแรงบ่อยครั้ง เช่น โรคซาร์ส จะทำให้ชาวจีนบางส่วนหันมาซื้อที่อยู่อาศัยในไทยเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นบ้านหลังที่ 2 รับมือหากเกิดโรคระบาดร้ายแรงในอนาคต ซึ่งในปัจจุบันมีคนจีนบางส่วนย้ายมาอาศัยในประเทศไทยในช่วงที่จีนประสบปัญหา
.
การเกิดขึ้นของปัญหาและอุปสรรคบางครั้งมันเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมได้ แต่หากเราศึกษาข้อมูลให้ดี และวางแผนเพื่อรับมือกับมันได้อย่างครอบคลุม ก็จะทำให้เราสามารถแก้ไขปัญหาและผ่านพ้นมันไปได้ด้วยดี