เปิดแล้ว! ช่องทางใหม่ๆที่จะทำให้เราใกล้ชิดกันมากขึ้น 💙
พบกับ Official Instagram ของชินยูได้แล้ววันนี้ ทีมจะคอยอัพเดตบริการของเรา รวมทั้งทรัพย์ราคาน่ารักมากมาย อย่าลืมกดติดตามกันด้วยนะคะ เดี๋ยวจะคุยกับเค้าไม่รู้เรื่อง ❗
.
และอีกหนึ่งช่องฝากห้องกับ Line Official Account ไม่ว่าจะเป็นเช่าหรือขายเราก้ยินดีให้บริการพร้อมทำการตลาดให้กับลูกค้าทุกคน
แล้วพบกันนนะคะ 😀
Recommended
ยุคสมัยแห่งการลงทุนคอนโด ควรไปต่อ? หรือควรพอแค่นี้!!!
ปัจจุบันหลาย ๆ ท่านที่เป็นนักลงทุนในคอนโดมิเนียม คงได้ยินข่าวสารมากมายเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจตกต่ำ ฟองสบู่คอนโด คอนโดล้นตลาด กำลังซื้อหดหาย จนเกิดคำถามว่า ยุคของการลงทุนคอนโดฯ ควรไปต่อหรือพอแค่นี้? คำตอบคือ การลงทุนคอนโดฯนั้นยังไปต่อได้แน่นอน แต่ไม่อู้ฟู่เหมือนสัก 3-4 ปีก่อน และต้องใช้ความอดทนมากขึ้น การเลือกซื้อแต่ละครั้งต้องใช้ความรู้ ประสบการณ์ในเลือกคัดสรรที่เข้มข้นยิ่งขึ้น ซึ่งเทรนด์การลงทุนคอนโดฯในอนาคตก็จะเปลี่ยนไปอีกมากทีเดียวค่ะ ซึ่งวันนี้ Shinyu Real Estate มีบทวิเคราะห์การลงทุนคอนโดฯในอีก 5 ปีข้างหน้ามาฝากทุกคนกันนะคะ . การย้ายถิ่นฐานเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯยังมีแนวโน้มที่สูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งในอีก 5 ปีข้างหน้าเราน่าจะได้เห็นตัวเมืองที่ขยายออกไปมากขึ้น ตัวอย่างเช่น โซน Mid สุขุมวิท ที่แต่เดิมถูกมองว่าสิ้นสุดอยู่ที่บริเวณอ่อนนุช แต่ปัจจุบันด้วยการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ ๆ บวกกับผู้คนที่ย้ายเข้ามาหาคอนโดฯใกล้รถไฟฟ้าทำให้ Mid สุขุมวิทถูกขยายออกไปจนถึงช่วง BTS อุดมสุขแล้ว ซึ่งในอีก 5 ปีข้างหน้าคำว่าสุขุมวิทที่เราพูดถึงอาจจะครอบคลุมไปถึงโซนสำโรงก็เป็นได้ . คอนโดฯที่ติดรถไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวจะไม่ใช่คำตอบอีกต่อไป แต่คนจะเลือกคอนโดฯที่มีความสะดวกสบายพร้อม ซึ่งเป็นเทรนด์ใหม่ของคนเมืองมีแนวโน้มเลือกที่อยู่อาศัยใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้านมากกว่า คอนโดฯที่อยู่ติดรถไฟฟ้าแบบก้าวเดียวถึงแต่ความสะดวกสบายรอบ ๆ มีน้อย เพราะชีวิตประจำวันของคนกรุงเทพฯเร่งรีบมากขึ้น การเดินทางติดขัดให้เวลามากขึ้น ทำให้เวลาพักผ่อน ทำกิจกรรมของตัวเองมีลดลง คอนโดฯที่ใกล้กับสิ่งอำนวยความสะดวก หรือเป็นโครงการมิกซ์ยูสจึงเป็นอนาคตที่จะได้รับความนิยมมากขึ้น . เกิดจากราคาที่ดินใหม่ที่ปรับตัวสูงขึ้นมาก ทำให้คอนโดฯในทำเลดี ๆ ในอนาคตจะราคาสูงขึ้นตามไป เรื่องนี้แม้แต่ปัจจุบันราคาคอนโดฯใหม่ก็ค่อนข้างสูงกว่าฐานเงินเดือนของลูกค้าเป้าหมายไปมาก ซึ่งจะส่งผลให้ความสามารถในการซื้อลดลง ผู้คนที่ต้องการคอนโดมิเนียมในเมืองมีความสะดวกสบายพร้อมจะปรับเป้าหมายจากซื้ออยู่ เป็นเช่าอยู่แทนเพื่อเตรียมความพร้อมไปก่อนในระยะหนึ่ง . ประเทศไทยกำลังจะก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว โดยคาดว่าในปี 2568 ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุถึง 14.4 ล้านคน (ข้อมูลจาก สสส.) จุดนี้ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการลงทุนเลยทีเดียว โดยเฉพาะกลุ่มวัยหลังเกษียณตั้งแต่ 60-70 ปี นับเป็นกลุ่มที่มีครบทั้งเงิน – แรง – เวลา ที่มองหาคอนโดมิเนียมที่เข้าใจถึงความต้องการของผู้สูงอายุอย่างแท้จริง แต่ปัจจุบันคอนโดฯที่เข้าถึงความต้องการของผู้สูงอายุนั้นมีน้อยมาก ทำให้คอนโดมิเนียมที่มีองค์ประกอบพร้อมสำหรับการอยู่อาศัยของผู้สูงอายุนั้นนับว่าเป็นสินค้าที่มีแนวโน้มจะเพิ่มมูลค่ามากขึ้นในอนาคต . ในช่วงอีก 5 ปีข้างหน้าการปล่อยเช่าผ่านช่องทางออนไลน์จะมีบทบาทมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับชาวต่างชาติทั้งที่เข้ามาพักอาศัยระยะสั้น (ประมาณ 1 เดือน) และระยะยาว โดยกลุ่มหลัก ๆ ที่น่าสนใจคือกลุ่ม Senior ...
Read More โอกาสสำคัญที่คุณจะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีมงาน Shinyu Real Estate
📣ใครลดทีม ชินยูเพิ่มทีม เพื่อตอกย้ำความมั่นใจในการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเรา มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จไปพร้อมๆกับเรา📣 🌟โอกาสสำคัญที่คุณจะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีมงาน Shinyu Real Estate🌟 บริษัทเอเจ้นท์ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นรุ่นใหม่ มาแรง ด้วยประสบการณ์และความสำเร็จเกือบ 6 ปี ที่เราให้บริการและคำปรึกษาด้านการซื้อ/ขาย/เช่า/ลงทุน/ตรวจรับ/ตกแต่งและบริหารจัดการดูแลคอนโดมิเนียมกับลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างประเทศเป็นหลัก ด้วยยอดขายกว่า 18,000 ล้านบาท 🎉🎉 . เรากำลังมองหาทีมงานชินยูรุ่นใหม่ไฟแรง ที่รักในการเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง มีความฝันและจิตวิญญาณในการทำงานที่จะมาร่วมทีมและเติบโตไปพร้อมกันกับเราหลายตำแหน่ง❗️❗️ 👑ผู้จัดการที่ปรึกษาทางด้านอสังหาริมทรัพย์ดูแลลูกค้าชาวไทย (Property Consultant Manager-Thai) 👑ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ดูแลลูกค้าชาวไทย (Property Consultant-Thai) 👑Digital Marketing Manager . 🌟ถ้าคุณคือคนที่ต้องการสิ่งเหล่านี้ ขอให้มาเป็นทีมเดียวกันเรา🌟 ✅อยากอยู่ในธุรกิจระดับแสนล้าน ✅อยากมีรายได้ไม่จำกัดเพดาน ✅ผลตอบแทนชัดเจน ทำอะไรได้อย่างนั้น ✅อยากยกระดับตัวเองดูแลลูกค้าระดับพรีเมี่ยม ✅อยากทำงานกับคนเก่งๆหรือระดับผู้บริหารจากบริษัทที่เราร่วมงานด้วย ✅อยากมีส่วนร่วมออกแบบอนาคตและกำหนดการทำงานของตัวเอง ✅อยากประสบความสำเร็จในการเป็นเอเจ้นท์ . 👑ตำแหน่ง :ผู้จัดการที่ปรึกษาทางด้านอสังหาริมทรัพย์ดูแลลูกค้าชาวไทย (Property Consultant Manager – Thai) ❗️❗️จำนวน: 1 ตำแหน่ง เท่านั้น 📣คุณสมบัติ ✅เพศ ชาย หรือ หญิง ✅อายุ 35 ปีขึ้นไป ✅วุฒิการศึกษา ขั้นต่ำปริญญาตรี ไม่ระบุคณะ ✅สามารถใช้งานโปรแกรมMicrosoft Word/Excel/Power Point/PDF ได้ดี ✅สามารถใช้โปรแกรมบริหารงานขายหรือบริหารลูกค้าได้ดี ✅สามารถใช้งานอินเตอร์เน็ต, Website, Market Place, และโปรแกรมแชทต่างๆได้ดี รักในการติดต่อสื่อสารพบปะกับผู้คน ✅มีความสามารถในการคำนวณขั้นพื้นฐาน ✅สามารถพูด/อ่าน/เขียน และสื่อสารภาษาไทยและภาษาอังกฤษได้ดี ✅มีประสบการณ์การทำงานในรูปแบบบริษัทขั้นต่ำ 8 ปี ✅มีประสบการณ์ในการบริหารทีมขายคอนโดจำนวน 5 คนขั้นต่ำ ไม่ว่าจะทำงานในบริษัทเอเจ้นท์หรือDeveloper(ถ้าเคยทำงานในบริษัทเอเจ้นท์หรือSole Agentจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ) ✅สามารถวางแผนการขาย กำหนดกลยุทธ์ วางโปรโมชั่นและควบคุมขั้นตอนการขายให้สมบูรณ์ ✅บุคลิกภาพการแต่งกายดี/มีใจรักในการบริการ/แก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ดี/มีไหวพริบ/มีความอดทนและรักการเรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆ ✅มีความรู้ด้านการลงทุนหรือมีประสบการณ์ในการลงทุนในคอนโดจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ ✅อดทนและไม่ย่อมแพ้ต่ออุปสรรคจนกว่าจะสำเร็จ ✅ใจเย็นและเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ✅ต้องมีทัศนคติเชิงบวกในการทำงานเท่านั้น ✅ยืดหยุ่นในการทำงาน ทั้ง วัน เวลา และวิธีการทำงาน ✅สามารถเจรจาต่อรองเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ต้องการได้ดี ...
Read More ลดค่าโอนและค่าจดจำนอง โอกาสทองในวิกฤตอสังหาฯ จริงหรือ!?
เมื่อไม่นานมามีทางรัฐบาลได้มีมติเห็นชอบให้ใช้มาตรการกระตุ้นตลาดที่อยู่อาศัย โดยการลดค่าธรรมเนียมการโอนจาก 2% เหลือ 0.01% ของราคาประเมิน และลดค่าจดจำนองจาก 1% เหลือ 0.01% ของราคาประเมิน สำหรับที่อยู่อาศัยใหม่ที่มีราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ซึ่งมาตรการนี้ จะช่วยกระตุ้นให้คนเข้ามาซื้ออสังหาฯ ทั้ง บ้าน ทาวน์เฮ้าส์ คอนโดมิเนียม กันมากขึ้น เพราะที่มาในปีนี้เศรษฐกิจมีการชะลอตัว กำลังซื้อหด ทำให้ตลาดอสังหาฯ ซบเซาตามไปด้วย โดยเฉพาะอสังหาฯ ที่ราคาไม่เกิน 3 ล้าน ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ที่ค้างอยู่ในสต็อกกว่า 50% . อย่างไรก็ตาม มาตรการนี้ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้กับทุกฝ่าย โดยมีทั้งข้อดีและข้อจำกัด ดังต่อไปนี้ . ในส่วนของข้อดี มาตรการนี้ได้เอื้อประโยชน์ต่อผู้บริโภคในกลุ่มผู้ซื้อระดับรายได้น้อย-ปานกลาง และผู้ที่มีเงินเย็น เพราะสามารถลดภาระต้นทุนในการซื้ออสังหาฯ ลงไปได้ เรียกได้ว่าอาจเป็นโอกาสทองในการเข้าซื้ออสังหาฯ เพราะนอกจากจะได้ลดค่าโอน-ค่าจดจำนองแล้ว ยังเป็นช่วงที่ผู้ประกอบการต้องหาโปรโมชันต่างๆ มาลด แลก แจก แถม เพื่อกระตุ้นยอดขาย และสำหรับผู้ประกอบการที่ถืออสังหาฯ ที่ระดับระคาต่ำกว่า 3 ล้านเอง ก็จะสามารถระบายสต็อกออกได้มากขึ้นจากมาตรการนี้ . ถึงกระนั้น ถ้าว่ากันตามจริงแล้ว แค่มาตรการนี้อาจไม่เพียงพอต่อการกระตุ้นตลาดอสังหาฯ ให้ ฟื้นคืนดังเดิม เนื่องจากมาตรการนี้ไม่ได้ครอบคลุมทุกระดับราคาของอสังหาฯ แต่จะเน้นไปที่กลุ่มราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งที่อยู่อาศัยในระดับราคานี้ก็จะอยู่แค่เพียงในกลุ่มของ ทาวน์เฮ้าส์ และ คอนโดมิเนียม รอบนอกกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด เท่านั้น และถึงจะเป็นกลุ่มใหญ่ในตลาดแต่ก็น่าจะไม่มากพอที่จะส่งผลต่อตลาดมากนัก ถ้าเทียบกับการออกมาตรการที่ครอบคลุมทุกระดับราคา ซึ่งเคยมีมาตรการนี้ออกมาเมื่อปี 2558 . นอกจากนี้ ช่วงนี้เศรษฐกิจก็ยังซบเซาอย่างต่อเนื่อง แม้จะลดค่าโอนและค่าจดจำนอง ผู้บริโภคก็ยังคงไม่มีกำลังมากพอที่จะซื้อ เพราะผู้บริโภคกลุ่มนี้ ได้รับผลจากภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนมากกว่ากลุ่มไหน ตลอดจนปัญหาเรื่องการความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อจากธนาคาร และหนี้สินของภาคครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง . จะเห็นได้ว่าแม้มาตรการฟังผิวเผินแล้วดูดี แต่ก็อาจไม่มากพอที่จะกระตุ้นตลาดอสังหาฯ ให้กลับมาคึกคัก เนื่องจากมาตรการยังคงไม่ครอบคลุม และยังคงมีปัจจัยต่างๆ ทางเศรษฐกิจที่เข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญ
Read More