
เปิดแล้ว! ช่องทางใหม่ๆที่จะทำให้เราใกล้ชิดกันมากขึ้น 💙
พบกับ Official Instagram ของชินยูได้แล้ววันนี้ ทีมจะคอยอัพเดตบริการของเรา รวมทั้งทรัพย์ราคาน่ารักมากมาย อย่าลืมกดติดตามกันด้วยนะคะ เดี๋ยวจะคุยกับเค้าไม่รู้เรื่อง ❗
.
และอีกหนึ่งช่องฝากห้องกับ Line Official Account ไม่ว่าจะเป็นเช่าหรือขายเราก้ยินดีให้บริการพร้อมทำการตลาดให้กับลูกค้าทุกคน
แล้วพบกันนนะคะ 😀
Recommended

‘ฮ่องกง’ ตลาดเล็กที่กำลังมา
จากเหตุการณ์ความไม่สงบในฮ่องกงที่กินเวลามากว่าหลายเดือน และดูเหมือนว่าจะยังคงดำเนินต่อไป ส่งผลให้ชาวฮ่องกงบางส่วนเริ่มมองหาและลงทุนกับที่อยู่อาศัยนอกประเทศกันมากขึ้นเพื่อใช้เป็นที่อยู่ชั่วคราว เหมือนกับ ‘เซฟเฮ้าส์’ ซึ่งประเทศไทยเองก็เป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่ชาวฮ่องกงให้ความสนใจ . จากข้อมูลของพร๊อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ระบุว่า ชาวฮ่องกงนิยมอยู่คอนโดย่านใจกลางเมือง อย่างเช่น สุขุมวิท เนื่องจากเดินทางสะดวก มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อีกทั้งยังเป็นมิตรต่อชาวต่างชาติ ชาวต่างชาติสามารถใช้ชีวิตได้ง่าย โดยห้องที่ชาวฮ่องกงให้ความสนใจคือคอนโดขนาด 1-2 ห้องนอนราคาอยู่ในช่วง 5-10 ล้านบาท . อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับตลาดจีนแล้ว ฮ่องกงยังถือว่าเป็นตลาดที่เล็กมาก แต่ก็น่าจะมีแนวโน้มที่ดีในอนาคตและในระยะยาว เนื่องจากฮ่องกงมีข้อจำกัดในเรื่องของพื้นที่อยู่อาศัย และ ราคา กล่าวคือ ราคาอสังหาฯ นั้นแพงมาก แต่พื้นที่อยู่อาศัยที่ได้กลับเล็กมากเช่นกัน คนฮ่องกงจึงมีแนวโน้มที่จะลงทุนกับอสังหาฯ ในต่างประเทศที่ดูคุ้มค่าและสามารถทำกำไรได้มากกว่า ถึงแม้ว่าอาจไม่ได้ใช่เป็นที่อยู่อาศัยหลักก็ตาม . นอกจากนี้ สำหรับนักลงทุนทั้งจีนและฮ่องกง ที่ต้องการย้ายฐานผลิตมายังอาเซียน เมื่อเจอตัวเร่งอย่างสถานการณ์ความไม่สงบในฮ่องกง ที่กระทบต่อการค้าโดยตรง ก็ทำให้ตัดสินใจเข้ามาลงทุนในอาเซียนเร็วขึ้น ซึ่งไทยเองก็อีกหนึ่งจุดหมายปลายทาง เพราะอยู่ใกล้กับฮ่องกง ไม่มีปัญหาด้านการเมืองและประวัติศาสตร์ต่อกัน อีกทั้งยังมีความคิดและไลฟ์สไตล์ไม่ต่างกันมากนัก ดังนั้น ในอนาคตก็อาจมีกลุ่มนักธุรกิจเข้ามาอยู่อาศัยในประเทศไทยมากขึ้นด้วย ดังนั้น ต่อไปในอนาคตตลาดฮ่องกง ก็อาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับวงการอสังหาริมทรัพย์ในไทย
Read More 
ยุคสมัยแห่งการลงทุนคอนโด ควรไปต่อ? หรือควรพอแค่นี้!!!
ปัจจุบันหลาย ๆ ท่านที่เป็นนักลงทุนในคอนโดมิเนียม คงได้ยินข่าวสารมากมายเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจตกต่ำ ฟองสบู่คอนโด คอนโดล้นตลาด กำลังซื้อหดหาย จนเกิดคำถามว่า ยุคของการลงทุนคอนโดฯ ควรไปต่อหรือพอแค่นี้? คำตอบคือ การลงทุนคอนโดฯนั้นยังไปต่อได้แน่นอน แต่ไม่อู้ฟู่เหมือนสัก 3-4 ปีก่อน และต้องใช้ความอดทนมากขึ้น การเลือกซื้อแต่ละครั้งต้องใช้ความรู้ ประสบการณ์ในเลือกคัดสรรที่เข้มข้นยิ่งขึ้น ซึ่งเทรนด์การลงทุนคอนโดฯในอนาคตก็จะเปลี่ยนไปอีกมากทีเดียวค่ะ ซึ่งวันนี้ Shinyu Real Estate มีบทวิเคราะห์การลงทุนคอนโดฯในอีก 5 ปีข้างหน้ามาฝากทุกคนกันนะคะ . การย้ายถิ่นฐานเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯยังมีแนวโน้มที่สูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งในอีก 5 ปีข้างหน้าเราน่าจะได้เห็นตัวเมืองที่ขยายออกไปมากขึ้น ตัวอย่างเช่น โซน Mid สุขุมวิท ที่แต่เดิมถูกมองว่าสิ้นสุดอยู่ที่บริเวณอ่อนนุช แต่ปัจจุบันด้วยการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ ๆ บวกกับผู้คนที่ย้ายเข้ามาหาคอนโดฯใกล้รถไฟฟ้าทำให้ Mid สุขุมวิทถูกขยายออกไปจนถึงช่วง BTS อุดมสุขแล้ว ซึ่งในอีก 5 ปีข้างหน้าคำว่าสุขุมวิทที่เราพูดถึงอาจจะครอบคลุมไปถึงโซนสำโรงก็เป็นได้ . คอนโดฯที่ติดรถไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวจะไม่ใช่คำตอบอีกต่อไป แต่คนจะเลือกคอนโดฯที่มีความสะดวกสบายพร้อม ซึ่งเป็นเทรนด์ใหม่ของคนเมืองมีแนวโน้มเลือกที่อยู่อาศัยใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้านมากกว่า คอนโดฯที่อยู่ติดรถไฟฟ้าแบบก้าวเดียวถึงแต่ความสะดวกสบายรอบ ๆ มีน้อย เพราะชีวิตประจำวันของคนกรุงเทพฯเร่งรีบมากขึ้น การเดินทางติดขัดให้เวลามากขึ้น ทำให้เวลาพักผ่อน ทำกิจกรรมของตัวเองมีลดลง คอนโดฯที่ใกล้กับสิ่งอำนวยความสะดวก หรือเป็นโครงการมิกซ์ยูสจึงเป็นอนาคตที่จะได้รับความนิยมมากขึ้น . เกิดจากราคาที่ดินใหม่ที่ปรับตัวสูงขึ้นมาก ทำให้คอนโดฯในทำเลดี ๆ ในอนาคตจะราคาสูงขึ้นตามไป เรื่องนี้แม้แต่ปัจจุบันราคาคอนโดฯใหม่ก็ค่อนข้างสูงกว่าฐานเงินเดือนของลูกค้าเป้าหมายไปมาก ซึ่งจะส่งผลให้ความสามารถในการซื้อลดลง ผู้คนที่ต้องการคอนโดมิเนียมในเมืองมีความสะดวกสบายพร้อมจะปรับเป้าหมายจากซื้ออยู่ เป็นเช่าอยู่แทนเพื่อเตรียมความพร้อมไปก่อนในระยะหนึ่ง . ประเทศไทยกำลังจะก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว โดยคาดว่าในปี 2568 ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุถึง 14.4 ล้านคน (ข้อมูลจาก สสส.) จุดนี้ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการลงทุนเลยทีเดียว โดยเฉพาะกลุ่มวัยหลังเกษียณตั้งแต่ 60-70 ปี นับเป็นกลุ่มที่มีครบทั้งเงิน – แรง – เวลา ที่มองหาคอนโดมิเนียมที่เข้าใจถึงความต้องการของผู้สูงอายุอย่างแท้จริง แต่ปัจจุบันคอนโดฯที่เข้าถึงความต้องการของผู้สูงอายุนั้นมีน้อยมาก ทำให้คอนโดมิเนียมที่มีองค์ประกอบพร้อมสำหรับการอยู่อาศัยของผู้สูงอายุนั้นนับว่าเป็นสินค้าที่มีแนวโน้มจะเพิ่มมูลค่ามากขึ้นในอนาคต . ในช่วงอีก 5 ปีข้างหน้าการปล่อยเช่าผ่านช่องทางออนไลน์จะมีบทบาทมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับชาวต่างชาติทั้งที่เข้ามาพักอาศัยระยะสั้น (ประมาณ 1 เดือน) และระยะยาว โดยกลุ่มหลัก ๆ ที่น่าสนใจคือกลุ่ม Senior ...
Read More 
ทำความรู้จักกับ พ.ร.บ. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฉบับใหม่ กระทบอะไรในธุรกิจการปล่อยเช่า
ใกล้เข้ามาแล้วสำหรับการประกาศใช้ พ.ร.บ. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฉบับใหม่ ซึ่งมีแผนจะเริ่มใช้ต้นปีหน้านี้ แทนพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน และ พระราชบัญญัติภาษีบํารุงท้องที่ โดยการเข้ามาของพ.ร.บ. ภาษีที่ดินฯ ฉบับใหม่นี้ ได้ส่งผลกระทบต่อแวดวงอสังหาริมทรัพย์เข้าอย่างจัง เพราะเป็นพ.ร.บ.ที่มีจุดประสงค์เพื่อต้องการลดการถือครองที่ดินเพื่อการเก็งกำไรในตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม พ.ร.บ.ฉบับนี้ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมาก โดยวันนี้เราจะพามารู้จักพ.ร.บ.ฉบับใหม่นี้ให้มากขึ้นกันค่ะ . :: ใครที่ได้รับผลกระทบ? :: บุคคลที่ได้รับผลกระทบจากพ.ร.บ.ฉบับใหม่นี้ ได้แก่ 1. เจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 2. เจ้าของอาคารชุด 3. ผู้ครอบครองหรือทำประโยชน์ในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่เป็นทรัพย์สินของรัฐ โดย “เจ้าของ” ในที่นี้ก็คือผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่มีชื่ออยู่ในโฉนดบ้านหรือที่ดิน หรือ หนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ห้องชุด สำหรับคอนโด . :: ครอบครองสินทรัพย์ใดบ้างถึงต้องเสียภาษี :: 1. ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม เช่น การทำไร่ ทำนา ทำสวน เลี้ยงสัตว์ 2. ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัย เช่น บ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม ทาวน์เฮ้าส์ หรืออื่นๆ ที่คนสามารถเข้าอยู่อาศัยได้ 3. ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์อื่นนอกจาก สองข้อแรก ตัวอย่างเช่น โรงงาน คลังสินค้า ตึกแถว อาคาร หรืออื่นๆ ที่สามารถใช้ประกอบการพาณิชยกรรม หรืออุตสาหกรรมได้ 4. ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างปล่อยทิ้งให้ว่าง ไม่ได้ทำประโยชน์อะไร . :: การวัดมูลค่าเพื่อเสียภาษี :: 1. สำหรับที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้สำหรับเกษตรกรรม หากมูลค่าของฐานภาษีนั้นไม่เกิน 75 ล้านให้เสียร้อยละ 0.01 ถ้ามูลค่าเกิน 75 ล้าน แต่ไม่เกิน 100 ล้าน ต้องเสีย 0.03 ถ้า เกิน 100 ล้าน แต่ไม่เกิน 500 ล้าน เสียร้อยละ 0.05 และถ้าเกิน 500 ล้าน แต่ไม่เกิน 1000 ล้าน เสียร้อยละ ...
Read More