อยากลงทุนปล่อยเช่าให้คนญี่ปุ่นต้องอ่าน! วันนี้เราจะมาเผยทริคดีๆ ที่จะช่วยมัดใจผู้เช่าชาวญี่ปุ่นกันแบบเจาะลึก ทั้งในเรื่องของ ทำเล ลักษณะห้องพัก ตลอดจนเทคนิคพิชิตใจในการปิดการขาย! อย่ารอช้า ตามเรามาดูกันเลย 👇
.
พร้อมพงษ์-ทองหล่อ-เอกมัย ย่านยอดฮิต ที่อาจไม่ฮิตอีกแล้ว!?
หลายคนคงทราบกันดีว่า หากสนใจปล่อยเช่าให้คนญี่ปุ่น ทำเลของอสังหาฯ ที่ควรลงทุนก็คงจะหนีไม่พ้นแถว พร้อมพงษ์-ทองหล่อ-เอกมัย ที่ได้ถูกเรียกขานว่าเป็น ‘Japanese Town’ หรือย่านอยู่อาศัยของคนญี่ปุ่น
ซึ่งสาเหตุที่คนญี่ปุ่นโดยเฉพาะคนที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยเลือกที่จะอาศัยอยู่ในย่านนี้ก็เป็นเพราะอยู่ใกล้กับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์คนญี่ปุ่นมากกว่า อย่างเช่น มี ‘Fuji Supermarket’ ที่มีการนำของกิน ของใช้ ต่าง ๆ นำเข้าจากญี่ปุ่นโดยตรง นอกจากนี้ ยังมี ‘ร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีคนญี่ปุ่นเป็นเจ้าของ’ แวดล้อมอยู่โดยรอบ ทำให้คนญี่ปุ่นเองรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ใกล้เคียงกับสภาพแวดล้อมตนเองเคยคุ้นชิน ไม่เพียงเท่านั้นบริเวณนี้ยังใกล้กับ ‘โรงเรียนญี่ปุ่นและโรงเรียนอินเตอร์’ หลายแห่ง สะดวกต่อสำหรับชาวญี่ปุ่นที่พาครอบครัวและลูกมาด้วย
แต่ถึงแม้ พร้อมพงษ์-ทองหล่อ-เอกมัย จะเป็นย่านยอดฮิตของชาวญี่ปุ่น แต่ในปัจจุบันก็มีชาวญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยเลยที่เริ่มขยับขยายออกมาอยู่ในย่านอื่น ๆ อย่าง อ่อนนุช และ ปุณณวิถี ทั้งนี้ก็เนื่องด้วยเรื่องงบประมาณ เพราะหากพูดกันตามจริงแล้วย่านในเมืองในแพง ค่าเช่าต่อตารางเมตรสูงเกิน 1000 บาท ในขณะที่หากเขยิบออกมาหน่อยก็อาจได้ห้องในราคาเช่าที่ถูกกว่า ตกตารางเมตรละ 600-700 บาท แถมความสะดวกสบายในเรื่องของการเดินทางและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ อย่างห้างสรรพสินค้าและซุปเปอร์มาร์เก็ต ก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าในเมืองเลย แต่อย่างไรหากเลือกได้ และงบฯ ถึงคนญี่ปุ่นก็มักจะเลือกย่านพร้อมพงษ์-ทองหล่อ-เอกมัย เป็นคำตอบสุดท้ายอยู่ดีค่ะ
.
จากประสบการณ์ 5 ปีที่ทาง Shinyu ได้ดูแลลูกค้ามา คอนโดที่ง่ายต่อการปล่อยเช่
– ‘Golf Simulator’ หรือ สนามกอล์ฟจำลอง เนื่องจากคนญี่ปุ่นที่เข้าม
– ใกล้กับรถไฟฟ้า ในระยะเดิน 5 นาที หรือไม่เกิน 500 เมตร
– รายล้อมด้วยร้านสะดวกซื้อหร
ทั้งนี้ หากห้องของใครหรือโครงการใด
แต่งได้แต่ “อย่าเยอะ”
บางคนคิดว่าการแต่งห้องด้วยของตกแต่งมากมายจะช่วยสร้างความประทับต่อลูกค้า แต่รู้ไหมคะ บางทีอาจไม่เป็นเช่นนั้น เพราะจากประสบการณ์ของเราที่เจอมา หลังจากที่ปิดการขายได้แล้ว มีลูกค้าบางท่านขอคืนของตกแต่งทั้งหมด นี่จึงเป็นตัวพิสูจน์ได้ว่า บางครั้งแต่งน้อย ๆ พอประมาณ เน้นความเรียบง่าย ก็อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าก็ได้นะคะ
นอกจากนี้การแต่งห้องควรจะเน้นไปที่สีจำนวน Earth tone หรือ สีที่ดูสว่างๆ เพื่อทำให้ห้องดูกว้าง สะอาด ดูอบอุ่น น่าอยู่ และเข้ากับทุกคนได้มากกว่า
ส่วนเรื่องของขนาดห้อง ห้อง ขนาด 45 ตร.ม. จะเป็นขนาดที่ได้รับความนิยม หรือจะเล็กกว่านั้นก็ได้ แต่ไม่ควรต่ำกว่า 35 ตร.ม. เพราะจะดูอึดอัดไปและถ้าเป็น 1 ห้องนอน ลูกค้าญี่ปุ่นส่วนมากจะชอบห้องที่เป็นสัดส่วน มีการแยกห้องนอน ห้องนั่งเล่น ออกจากกัน และควรมีครัวปิด เพื่อที่กลิ่นอาหารจะได้ไม่ไปติดเฟอร์นิเจอร์
สิ่งที่คนญี่ปุ่นต้องการก็คือคนที่สื่อสารกับเขารู้เรื่อง แน่นอนว่าคนญี่ปุ่นที่เข้ามาทำงานในไทยรู้ภาษาอังกฤษ แต่นั่นยังไม่พอค่ะ เขาต้องการคนที่พูดภาษาเดียวกับเข้า หรือก็คือต้อง “สื่อสาร” ภาษาญี่ปุ่นกับเขาได้ในระดับที่ดีและเข้าใจ เพราะเรื่องที่พักเป็นเรื่องใหญ่ถ้าเกิดเข้าใจผิดพลาดกันตรงจุดไหนขึ้นมาก็อาจเกิดปัญหาตามมาได้
นอกจากเรื่องการสื่อสารแล้ว โดยปกติส่วนมากคนญี่ปุ่นจะบอกงบประมาณกับเรามาแล้วให้เราจัดการทุกอย่างให้ค่าใช้จ่ายเบ็ดเสร็จอยู่ในงบฯ ทั้งค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแม่บ้าน ค่าทำความสะอาด ค่าเคเบิล ต้องครบอยู่ในแพคเกจเดียว อีกทั้งเขายังมองหาบริการหลังการย้ายเข้า ที่จะมาช่วยเขาแก้ปัญหาเมื่อเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น ดังนั้น หากจะปิดการขายให้คนญี่ปุ่นได้ เราก็ต้องจัดการในส่วนนี้ให้เขาได้ด้วย